ต้องยอมรับจริงๆ ว่าโค้ชฟุตบอลชาวไทยอย่างโค้ชซิโก้นั้นเป็นโค้ชในดวงใจของใครหลายๆ คน ผลงานของเขานั้นไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลชาวไทยเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงแฟนบอลต่างชาติโดยเฉพาะในแถบประเทศอาเซียนด้วย
เราจะเห็นได้ชัดจากการที่สื่อต่างประเทศมักจะตีข่าวเกี่ยวกับประเด็นโค้ชประเทศไทยโดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยพบเจอกับวิกฤตฟุตบอลไทยไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ผิดพลาดของโค้ชแดนปลาดิบอย่างนิชิโนะ ผลงานย่ำแย่จากการแข่งขันหลายต่อหลายครั้งทั้งทีมชาติชุดใหญ่และ U23 การตกอันดับมากที่สุดในโลกในการจัดอันดับฟีฟ่าแรงกิ้ง
ทุกอย่างถาโถมให้สถานการณ์ของฟุตบอลไทยในปัจจุบันดิ่งลงเหวมากยิ่งขึ้นไปอีก จนทำให้สื่อเวียดนามตั้งข้อสงสัยและนำเสนอข่าวว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่ประเทศไทยจะได้กลับขึ้นมาเป็นเจ้าอาเซียนอีกครั้งถ้าโค้ชซิโก้กลับมาคุมทีม แม้ว่าเราจะรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะปัจจุบันโค้ชซิโก้ได้เป็นโค้ชให้กับสโมสรฮองอันห์ ยาลาย
ที่เจ้าของสโมสรรักเป็นอย่างมากแถมยังสามารถทำผลงานให้กับสโมสรดังกล่าวได้อย่างยอดเยี่ยม แต่มันก็อดสงสัยไม่ได้เช่นเดียวกันเพราะทีมชาติไทยนั้นสามารถเล่นได้เป็นอย่างดีในการคุมทีมของโค้ชซิโก้ ยิ่งมีข่าวฉีกสัญญาระหว่างทางสมาคมฟุตบอลไทยกับโค้ชนิชิโนะยิ่งทำให้หลายคนคาดหวังว่าจะเป็นอย่างไรหากโค้ชซิโก้ได้กลับมาคุมทีมอีกครั้ง
โค้ชซิโก้หรือนายเกียรติศักดิ์ เสนาเมืองนั้นได้เข้าร่วมทำงานกับทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในฐานะของผู้จัดการทีมชาติไทยตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปี 2560 ช่วงเวลาที่ทีมชาติไทยอยู่ภายใต้การควบคุมของโค้ชซิโก้นั้นถือเป็นช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่สุดของทีมชาติไทย มีผลงานที่ประสบความสำเร็จมากมายแถมยังเป็นหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตลอดระยะเวลา 4 ปี
เป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยสามารถคว้าแชมป์การแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพได้สำเร็จถึง 2 สมัย สามารถพาทีมชาติไทยเข้าสู่การแข่งขันรอบคัดเลือกโซนเอเชียรอบ 3 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกได้สำเร็จ ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถเอาชนะเวียดนามซึ่งปัจจุบันเป็นทีมฟุตบอลอันดับ 1 ของอาเซียนได้หลายต่อหลายครั้ง สำหรับการคุมทีมเยาวชนเขาก็สามารถทำได้อย่างงดงามไม่ว่าจะเป็นการคว้าเหรียญทองในการแข่งขันซีเกมส์ การได้อันดับที่ 4 ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์
เรียกได้ว่าเป็นโค้ชที่สามารถพาทีมชนะได้มากที่สุดในทีมฟุตบอลภูมิภาคอาเซียนที่ 51.2 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่โค้ชซิโก้ยุติบทบาทในฐานะของโค้ชทีมชาติไทย ทีมชาติไทยก็เริ่มประสบปัญหามากมายและผลงานของพวกเขาก็ดิ่งลงเหวในที่สุด หลายคนโทษว่าเป็นการทำงานที่ย่ำแย่ของโค้ชนิชิโนะ แต่ความจริงแล้วหากมองในมุมกว้างมากยิ่งขึ้น
เราจะพบว่าโค้ชไม่ได้มีบทบาทในการบริหารทีมแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสมาคมฟุตบอลไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจหลายต่อหลายครั้ง ทั้งหมดนี้จะกลายมาเป็นบทเรียนให้ทางสมาคมฟุตบอลไทยและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำการคัดเลือกโค้ชที่มีความสามารถในการส่งทีมชาติไทยกลับไปในยุคเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง
อ่านข่าวเพิ่มเติมที่ :: ข่าวกีฬา
แฟนเพจเฟสบุ๊ค :: Extremesoccer89
Comments