top of page

ย้อนรอยประวัติศาสตร์วิกฤตศรัทธาฟุตบอลทีมชาติไทย



เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากที่สุดอีกช่วงหนึ่งของฟุตบอลทีมชาติไทย จากความผิดพลาดในการดำเนินการและฟอร์มการเล่นที่ต่ำกว่าระดับมาตรฐานที่แฟนบอลคาดหวังเอาไว้ ทำให้พวกเขานั้นต้องประสบความล้มเหลวในการแข่งขันหลายต่อหลายครั้ง


แต่ความล้มเหลวที่ส่งผลกระทบต่อศรัทธาของแฟนบอลมากที่สุดก็คือความพ่ายแพ้ในการแข่งขันรอบคัดเลือกรอบ 2 โซนเอเชียฟุตบอลโลก 2022 เนื่องจากมันเป็นการแข่งขันใหญ่ที่ส่งผลต่อการจัดลำดับของฟีฟ่า ส่งผลให้ลำดับของทีมชาติไทยนั้นตกลงมามากที่สุดในโลก แม้ว่าจะยังสามารถรักษาอันดับ 2 ของอาเซียนเอาไว้ได้แต่คะแนนก็ยังห่างจากที่ 1 ของอาเซียนอย่างเวียดนามที่แซงเราไปหลายปีแล้วดูเหมือนจะไม่มีทีท่าว่าเราจะสามารถแซงคืนได้เลยค่อนข้างมาก


อย่างไรก็ตามหากลองย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ในปี 2001 ถึงปี 2012 เป็นระยะเวลากว่า 12 ปีที่ทีมชาติไทยนั้นต้องเผชิญกับช่วงเวลาวิกฤตศรัทธาจะทั้งแฟนบอลและทุกคนในชาติ นั่นก็เป็นเพราะว่าผลงานของพวกเขานั้นตกต่ำมากที่สุดในแถบอาเซียนด้วยกัน เรียกได้ว่าพวกเขานั้นแทบจะไม่มีผลงานไหนที่สามารถช่วยเชิดหน้าชูตาได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ต้องพูดถึงการคว้าแชมป์ด้วยซ้ำไป เพียงแค่ฟอร์มการเล่นก็ยังทำให้หลายคนมองว่าการที่ฟุตบอลไทยจะไปฟุตบอลโลกได้นั้นเป็นเพียงแค่ความหวังลมๆ แล้งๆ ของคนบางกลุ่ม


หลังจากปล่อยให้สถานการณ์ย่ำแย่อยู่เป็นระยะเวลาเกินทศวรรษสุดท้ายก็มาจนถึงยุคของโค้ชที่ทุกคนจดจำได้มากที่สุดนั่นก็คือนายเกียรติศักดิ์ เสนาเมืองหรือโค้ชซิโก้นั้นเอง หลายคนอาจคิดว่าการให้โค้ชมากความสามารถและประสบการณ์จากต่างประเทศมาคุมทีมจะสามารถช่วยวิกฤตได้แต่ความจริงแล้วโค้ชชาวไทยผู้นี้เป็นคนที่สามารถกู้วิกฤตได้อย่างแท้จริง หลังจากเข้ามาคุมทีมเพียงแค่ไม่นานพวกเขาก็สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันซีเกมส์ได้สำเร็จในปี 2013 ที่จัดขึ้นในประเทศเมียนมาร์


ต่อมาในปี 2014 พวกเขาก็สามารถคว้าอันดับ 4 ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ได้สำเร็จ ถัดจากนั้นอีกไม่นานยังสามารถคว้าแชมป์การแข่งขันซูซูกิ คัพได้สำเร็จอีกด้วย เรียกได้ว่าโค้ชซิโก้นั้นเป็นคนที่สามารถพลิกวิกฤตศรัทธาฟุตบอลไทยได้อย่างน่าเหลือเชื่อและมันก็ทำให้เขากลายเป็นตำนานในวงการฟุตบอลไทยในที่สุด และผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขาก็คือการพาทีมชาติผ่านเข้ารอบคัดเลือกฟุตบอลโลกรอบแรกในปี 2015 เข้าถึงรอบ 12 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ แถวในปี 2016 ยังได้สิทธิ์ในการเข้ารอบเอเชียนคัพปี 2019 แบบอัตโนมัติอีกด้วย


อ่านข่าวเพิ่มเติมที่ :: ข่าวกีฬาออนไลน์

แฟนเพจเฟสบุ๊ค :: Extremesoccer89

bottom of page