ตั้งแต่การแข่งขันรอบคัดเลือกโซนเอเชียรอบ 2 ฟุตบอลโลก 2022 จบลงอย่างน่าผิดหวังสำหรับทีมช้างศึกไทย ทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงเหล่าแฟนบอลนั้นต่างก็โจมตีไปยังโค้ชนิชิโนะ โค้ชทีมชาติจากแดนปลาดิบที่ได้รับค่าจ้างสูงสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยว่าผลงานของเขานั้นยังทำออกมาได้ไม่ดีพอ
กระแสครั้งนี้เป็นกระแสโจมตีจนทำให้สมาคมฟุตบอลรับรู้ได้ถึงความรุนแรง แต่หลังจากที่มีข่าวสมาคมฟุตบอลยุติสัญญาฟ้าแลบกับโค้ชนิชิโนะ นักฟุตบอลทีมชาติไทยหลายคนก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความให้กำลังใจกับโค้ชผู้นี้ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปย้อนรอยดูผลงานของโค้ชแดนปลาดิบผู้นี้กันว่าความจริงแล้วผลงานไม่ดีหรือเขาแค่ผิดพลาดครั้งใหญ่กันแน่ อากิระ นิชิโนะนั้นเป็นโค้ชฟุตบอลจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้เข้ามามีบทบาทเป็นโค้ชให้กับช้างศึกไทยทั้งทีมชุดหลักและทีมยู 23 ในปี 2562 หรือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว นับเป็นกุนซือชาวญี่ปุ่นคนแรกในประวัติศาสตร์ พวกเขาเซ็นสัญญาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2562 จนถึงมกราคม 2565 เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 3 ปี แต่ก็มีอันยุติสัญญาจ้างไปแล้วเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา
เป็นเวลา 2 ปีที่โค้ชผู้นี้ได้ทำงานในฐานะของกุนซือทีมชาติไทย ด้วยวัย 64 ปีเขาเป็นคนที่เต็มไปด้วยประสบการณ์และความสามารถทั้งในฐานะของนักเตะและกุนซือ เคยติดทีมชาติญี่ปุ่น 12 นัดมาตั้งแต่ปี 1977 ได้เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนให้กับทีมชาติญี่ปุ่นของทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปีและ 23 ปี รวมไปถึงทีมชาติชุดใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น เคยพาทีมชาติญี่ปุ่นเข้ารอบลึกถึง 16 ทีมสุดท้ายในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่จัดขึ้นในรัสเซีย ไม่เพียงเท่านั้นในระดับสโมสรก็มีผลงานมากมาย
ส่วนการทำผลงานกับทีมชาติไทยนั้นสำหรับทีมชุดใหญ่เมื่อไม่นานมานี้การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ประเทศไทยตกรอบ 2 ในการคัดเลือกโซนเอเชีย เสมอเวียดนามไปด้วยคะแนน 0 ต่อ 0 เอาชนะอินโดนีเซียไปด้วยคะแนน 3 ต่อ 0 เอาชนะยูเออีไปได้ด้วยคะแนน 2 ต่อ 1 พ่ายแพ้ให้กับมาเลเซียด้วยคะแนน 1 ต่อ 2 เสมอกับเวียดนาม 0 ตอบ 0 เสมอกับอินโดนีเซียสองต่อสอง แพ้ให้กับยูเออี 1 ต่อ 3 และแพ้ให้กับมาเลเซีย 0 ต่อ 1 เรียกได้ว่าผลงานกับทีมชาติชุดใหญ่นั้นแทบจะไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยทีเดียว แต่สำหรับทีมยู 23 ในการแข่งขันซีเกมส์
แม้ว่าจะเปิดมาด้วยการพ่ายแพ้อินโดนีเซียด้วยคะแนน 0 ต่อ 2 แต่หลังจากนั้นก็สามารถเอาชนะบรูไนได้ด้วยคะแนนถึง 7 ต่อ 0 แบบขาดลอย จากนั้นก็ชนะสิงคโปร์ด้วยคะแนน 3 ต่อ 0 เอาชนะลาวด้วยคะแนน 2 ต่อ 0 และเสมอกับเวียดนาม 2 ต่อ 2 ส่วนการแข่งขันเอเชีย 2020 แม้ว่าจะตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายแต่เปิดมาก็สามารถทำได้ยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะบาห์เรน 5 ต่อศูนย์ 0 แพ้ให้กับออสเตรเลีย 1 ต่อ 2 เสมออิรัก 1 ต่อ 1 และแพ้ให้กับซาอุดิอาระเบีย 0 ต่อ 1
อ่านข่าวเพิ่มเติมที่ :: ข่าวกีฬา แฟนเพจเฟสบุ๊ค :: Extremesoccer89
ypeedude01 1 day ago